ช่วงปิดฤดูกาลยาวแบบนี้ หากใครมองหาทางเลือกในการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือรองเท้าวิ่งคู่ใจซักคู่ ซึ่งเดี๋ยวนี้นั้นรองเท้าวิ่งที่มีให้เลือกมากมายจะมีคู่ไหนบ้างที่เหมาะกับเรา เทคโนโลยีในรองเท้ารุ่นใหม่ๆนั้นเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เราหาคำตอบมาให้คุณแล้วด้วยรองเท้าวิ่งที่เราเลือกมาแนะนำกัน 5 รุ่น ไม่เพียงแค่คุณภาพที่ยอดเยี่ยม รองเท้าเหล่านี้ยังใส่แล้วดูดีอีกด้วย หากใครกำลังมองหารองเท้าวิ่งเพื่อออกกำลังกายรับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน
NIKE FLYKNIT LUNAR1+
Nike FlyKnit Lunar1+ เปิดตัวพร้อมกับคอนเซปท์ “THE PERFECT FIT, FOR THE PERFECT RUN” โดย Nike ได้พัฒนารองเท้ารุ่นนี้มาจากงานวิจัยที่เก็บข้อมูลจากเหล่านักวิ่งระดับท็อปของโลก ที่ต่างก็ต้องการรองเท้าที่ใส่สบาย และคล่องแคล่ว กระชับเหมือนใส่แค่ถุงเท้าและต้องมีน้ำหนักเบาราวกับขนนก เมื่อได้โจทย์ดังนี้แล้ว Nike ใช้เวลาหลายปีทีเดียวกว่าจะพัฒนารองเท้ารุ่นนี้ออกมาซึ่งพวกเขาบอกว่านี่คือเทคโนโลยีใหม่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการวิ่งจริงๆ
Nike Flyknit Lunar1+ ใช้นวัตกรรมใหม่ๆในการผลิด โดยส่วนบนของรองเท้านั้นถักขึ้นจากเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความหนาไม่เท่ากัน คือในส่วนที่ต้องการความยืดหยุ่นก็จะบางกว่า อีกส่วนที่ต้องการรองรับแรงกระแทก
น้ำหนักที่เบาสุดๆ (แค่ 226 กรัม ที่ไซส์ 10) ผสมความเบาสบายของส่วนบนรองเท้าอย่างที่ได้กล่าวไปกับชุดพื้นรับแรงกระแทก Lunarlon foam ที่ก็ต้องเรียกว่าเบาสุดๆอีกเช่นกัน มีเทคโนโลยี Nike+ ที่เราสามารถใช้ track การวิ่งแต่ละครั้งนอกจากนี้ยังมีสีให้เราเลือกได้หลากหลาย หรืออยากออกแบบสีเองก็ทำได้กับ Nike ID
ADIDAS ENERGY BOOST
หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ Energy Boost มาบ้างแล้ว รองเท้าวิ่งที่ adidas ภูมิใจนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยคืนพลังงานให้กับผู้สวมใส่ได้ถึง 15% ด้วยชุดโฟมรองรับแรงกระแทกที่พวกเขาอ้างว่าดีกว่ารองเท้าวิ่งยี่ห้ออื่นแน่นอน
ชุดพื้นที่ว่าประกอบด้วย capsule ที่ใช้เก็บพลังงานและถ่ายคืนให้แก่ผู้สวมใส่ วัสดุผิวบนรองเท้าก็ยังคงคอนเซ็ปท์ของรองเท้าวิ่งได้ดีคือมีน้ำหนักเบาและช่วยระบายความร้อนได้ดี พร้อมใช้งานเทคโนโลยี micoach speed cell ได้ด้วย อีกหนึ่งจุดเด่นที่ adidas พยายามนำเสนอคือความคงทนแม้จะวิ่งในอากาศร้อนๆ หรือทนต่อทุกสภาพพื้นผิว ดังนั้น energy boost คู่นี้จึงเป็นทางเลือกที่เพอร์เฟ็คสำหรับคนที่วางแผนจะวิ่งระยะไกล คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยพัฒนาการวิ่งคุณได้แน่นอน
ASICS GEL FUJI TRABUCO
ถัดมาอีกคู่เป็นของแบรนด์จากเอเชียเราบ้าง Asics คู่นี้ไม่ได้โดดเด่นในเรื่องดีไซน์เท่ากับคู่อื่นแน่ๆ แต่ที่เป็นจุดเด่นของเค้าก็คือความอึดถึก และประสิทธิภาพในการวิ่ง off-road ไม่ว่าสภาพภูมิประเทศจะโหดขนาดไหนรับรองว่า เจ้า Asics ตัวนี้เอาอยู่แน่นอน
สำหรับการเป็นรองเท้าออฟโร้ดของมัน เจ้า Trabucos มีทีเด็ดอยู่ที่ชุดพื้นป้องกันการกระแทกจากื้นที่ขรุขระ หรือพื้นที่เป็นก้อนหินแข็งๆ และคุณสมบัติขอบพื้นที่มีรอบรองเท้า 90 องศาช่วยในการยึดเกาะในทุกสภาพพื้นผิวอีกด้วย
NIKE ZOOM ELITE 6
สำหรับคนที่เน้นความเร็วต้องคู่นี้เลย Zoom Elite เวอร์ชั่น 6 เหมาะกับนักวิ่งที่เน้นการสปรินท์ หรือเร่งความเร็วในระยะทางสั้นๆ คุณสมบัติเด่นของมันคงหนีไม่พ้น Dynamic Flywire บริเวณกลางลำตัวรองเท้าที่ทำหน้าที่ห่อกระชับรูปเท้าของผู้สวมใส่ต่อจากเชือกรองเท้า วนรอบตั้งแต่พื้นรองเท้าขึ้นมาผ่านเชือกและลงไปอีกด้านหนึ่งช่วยกระชับเท้าตรงกลางได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
นอกจากน้ำหนักเบาตามไสตล์ของรองเท้าวิ่งแล้ว การดีไซน์รูปทรงและสีสันก็ยังดูมีแฟชั่นกว่ารองเท้าวิ่งรุ่นถึกๆคู่อื่นเยอะ คือนอกจากจะใส่วิ่งออกกำลังกายแล้ว หากจะใส่เที่ยวก็ยังดูดีได้ไม่แพ้กัน
PUMA FAAS 500 V2
รองเท้าวิ่งจากค่ายเสือดำที่เราเลือกมาแนะนำตัวนี้เน้นดีไซน์ที่เรียบๆเท่ห์ๆ แบบที่พูม่าพยายามจะนำเสนอว่า less is more การออกแบบ Faas 500 คู่นี้ก็ทำออกมาได้ดูดีทีเดียว สิ่งที่พัฒนาขึ้นอีกอย่างคือเรื่องของน้ำหนักที่เบากว่าเดิมอีก และการออกแบบระดับพื้นรองเท้ามีอัตราส่วนความสูงของพื้นจากส้นเท้ามาปลายเท้าต่างกันน้อยลงอีก 4mm เพื่อทำให้เมื่อสวมใส่แล้วรู้สึกเป็นธรรมาชาติมากขึ้น
เทคโนโลยี neutralCELL ถูกนำมาใช้กับชุดพื้นกันกระแทก ตัวนี้ก็มีคุณสมบัติลดการสูญเสียพลังงานได้ดีเช่นกัน ผิวบนที่มีลักษณะเหมือนตาข่ายช่วยให้ระบายอากาศและลดอุณภูมิให้เท้าเราขณะที่วิ่งอยู่ได้ เรียกว่าถ้าจะหารองเท้าวิ่งที่ครบเครื่องเจ้า Puma Faas 500 V.2 ตัวนี้ก็เป็นคำตอบเช่นกัน
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น