เทพฟาเบรกาส : สวรรค์หล่นลงดินที่สแตมฟอร์ดบริดจ์
_____________________________________________
แฟนบอล “สิงห์บลูห์” เชลซี เมื่อคืนนี้ถึงสวรรค์กันทุกคน และต้องชั้น 7 เป็นอย่างต่ำหลังเห็นนักเตะทีมรักสร้างผลงานสุดเฉียบเอาชนะน้องใหม่ เบิร์นลีย์ 3 – 1 ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดมันเดย์ ไนท์ เมื่อคืนที่ผ่านมา
ลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกส เปิดฉากด้วยการเดินหน้าบุกใส่ ไล่ต้อนเบิร์นลีย์ อย่างเมามัน จังหวะจบสกอร์แทบมีให้ลุ้นแทบทุกช็อตที่ดันเกมขึ้นหน้าแฟนบอลมีความสุขแน่นอน ไม่ว่าจะเชียร์ทีมไหน ถ้าได้เห็นบอลเอ็นเตอร์เทนแบบนี้ ที่ไม่เล่นดึงเช็ง ซูเอี๋ย หรือเอารถบัสไปขวางประตู เหมือนที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” แสดงให้ดู
คงไม่เป็นการออกตัวล้อฟรีแน่ถ้าจะพูดว่านี่อาจจะเป็น “ดรีม ทีม” ที่แฟนบอลเชลซี อยากเห็นมาตลอดนับตั้งแต่ โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีน้ำมันชาวรัสเซียเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรตั้งแต่ปี 2003และหวังจะให้สโมสรแห่งนี้เป็นโคตรทีมพันธุ์ดุ ที่เล่นเกมรุกได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกแต่หลายสิบกุนซือที่เดินเข้าสู่ถิ่นสแตมฟอร์มบริดจ์ ล้วนยังทำความฝันนี้ไม่สำเร็จ แม้จะกวาดมาได้หลายโทรฟี่รางวัลในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา
จนกระทั่ง ฤดูกาล 2013/14 ที่น่าจะเป็นนรกอย่างแท้จริง สำหรับเหล่า “เดอะ บลูส์” เมื่อทีมต้องมือเปล่าชวดแชมป์ในทุกรายการ ทุกอย่างเป็นศูนย์ด้วยสาเหตุหลักๆ คือ กองหน้ายิงไม่ได้ ตัวยิงแบบโป้งปิดบัญชีไม่มี เดมบา บา หรือ เฟร์นันโด ตอร์เรส พึ่งไม่ได้
และที่สำคัญคือมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมไม่มี แฟรงก์ แลมพาร์ด เลยจุดสูงสุดไปแล้ว รามิเรส หรือ จอห์น โอบี มิเกล ก็ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย คุมจังหวะเกมได้ไม่เนียนพอทำให้บอลตรงกลางของ “เดอะ บลูส์” เจาะแนวรับคู่ต่อสู้ไม่ผ่านเอาเสียเลย ถึงแม้ว่าบรรดาตัวรุกอย่าง เอแดง อาซาร์ หรือ วิลเลียน จะพล่านไปทั่วสนามแต่ก็สุดปัญญาจะพาบอลทะลุฝ่ากลางแนวรับคู่ต่อสู้แบบเด็ดขาด เพราะจังหวะจ่ายบอลได้เสียไปสู่การทำประตูไม่มี
แต่จากเกมเมื่อคืนนี้ มีสัญญาณสวรรค์กำลังจะสุกงอมและหล่นลงมาที่สแตมฟอร์ดบริดจ์นอกจากเกมรุกดุดันขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การสร้างสรรค์เกมจากมิดฟิลด์ยังดูเนียนตาและยืดหยุ่นได้ดีตามจังหวะเกม
ดิเอโก้ คอสต้า ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ยังไม่ย้ายมาจากทีม “ตราหมี” แอตฯ มาดริด ว่าจะมาแก้ปัญหาในการจบสกอร์ของเชลซี และหอกชาวสเปนเชื้อสายบราซิเลียนก็ตอบคำถามนี้แล้วด้วย 1 ประตูในเกมเมื่อคืน คอสต้า ไม่ได้แค่รอโอกาสแต่ยังวิ่งขึ้นลงช่วยต่อบอลตัดเกม เพรสซิ่งกดดันคู่แข่ง ทำลายจังหวะ จ่ายบอลได้เสียให้เพื่อน เรียกว่า ศูนย์หน้ารายนี้ทำทุกอย่างที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ เฟร์นันโด
ตอร์เรส ทำได้รวมกัน
กุญแจสำคัญอย่างแท้จริงคือเกมแดนกลาง เกมที่สังเวียนแข้ง เทิร์ฟ มัวร์ เมื่อคืนนี้ เชลซี คุมจังหวะไว้ได้หมด และถือเป็นผลงานขั้นเอกอุจากฝีเท้าของ เชส ฟาเบรกาส ที่ย้ายจาก “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากลา ลีกา สเปนมาในช่วงซัมเมอร์ ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ (ราว 1, 350 ล้านบาท)
แม้ช่วงแรกย้ายมามิดฟิลด์ทีมชาติสเปนไม่ถูกกล่าวถึงเท่า คอสต้า กระทั่ง มูรินโญ่ ก็ไม่ค่อยแสดงความเห็นเมื่อถูกนักข่าวถามไถ่ แต่สุดท้ายก็เป็น “เดอะ สเปเชียล วัน” เอง ที่ต้องยอมเปิดปากยกย่อง ฟาเบรกาส ในที่สุด
ต้องยอมรับว่า ในวัย 27 ปี เชส ยังเป็น เชส คนดีคนเดิมเหมือนสมัยที่ค้าแข้งให้ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อลเชส ยังวางบอลแม่นเป็นจับวางในจังหวะได้เสีย ไอเดียสร้างสรรค์เกมยังแพรวพราว คิดเร็วทำเร็ว ทำได้และออกมาดีด้วย จาก 1 การจ่ายบอลให้ อังเดร ชูรเลอ แข้งทีมแชมป์โลกเยอรมนี ทะลุขึ้นไปยิงประตูที่ 2 และอีกหนึ่งเปิดลูกเตะมุมให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แปเผาขนเป็นประตูที่ 3 ในเกมเมื่อคืน
ซึ่งทำให้รวมแล้ว เชส ทำแอสซิสต์ไปทั้งหมด 72 ครั้ง เป็นรอง เธียร์รี่ อองรี เจ้าของสถิติสูงสุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก แค่ 2 ครั้งเท่านั้น
หลังเกมเมื่อคืน การทำหน้าที่ของ ฟาเบรกาส ยอดเยี่ยมจนได้รางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” และได้รับการสรรเสริญอย่างเต็มปากจาก มูรินโญ่ เจ้านาย แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า ข้อบกพร่องจากฤดูกาลที่แล้วของเชลซี กำลังได้รับการแก้ไขอย่างถูกจุด
เชลซี กำลังจะกลับจากนรก เมื่อสวรรค์ประทานเทพ ฟาเบรกาส ลงมาจุติที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
บทความจากเทพฟาเบรกาส : สวรรค์หล่นลงดินที่สแตมฟอร์ดบริดจ์
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น